มีช่วงเวลาหนึ่งในโลกที่ธนบัตรถูกพิมพ์ออกมาจนเต็มท้องถนน…แต่กลับซื้อขนมปังก้อนเดียวไม่ได้
ภาพที่ชัดที่สุดคือ “ประเทศซิมบับเว”
ช่วงหนึ่งเงินเฟ้อสูงจนรัฐบาลต้องพิมพ์ธนบัตร 100 ล้านดอลลาร์ซิมบับเวออกมา แต่ก็ยัง ไม่ทันความเร็วของราคาข้าวของ
ถึงขั้นมีคำพูดประชดว่า “เงินเฟ้อที่ซิมบับเวเร็วกว่า คนขับรถเมล์เก็บค่าโดยสารเสียอีก”
เช้าออกจากบ้านเตรียมเงินค่าโดยสารไว้พอดี แต่พอบ่ายรถวนกลับมาถึงป้ายเดิม ค่าโดยสารขึ้นราคาแล้ว เงินที่พกมาจึง “ไม่พอจ่าย” ทั้ง ๆ ที่ยังเป็นวันเดียวกัน
เงินที่ถืออยู่ตอนเช้า บ่ายมาก็แทบไร้ค่าในทันที… (หรือจริงๆมันไม่ได้มีค่าในตัวเองอยู่แล้วกันแน่นะ)
หรืออย่าง “เวเนซุเอล่า” ประเทศที่มีน้ำมันมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก แต่เมื่อระบบเศรษฐกิจพัง เงินถูกพิมพ์ซ้ำเติม ประชาชนต้องหอบถุงเงินเต็มบ้านไปซื้อของได้ไม่กี่อย่าง บางคนใช้ธนบัตรแทนกระดาษชำระเช็ดก้น เพราะถูกกว่าซื้อทิชชู่จริงๆ
“เงินกระดาษ” ไม่ใช่ของจริง มันคือ “สัญญา” ที่รัฐบาลรับปากว่าจะมีมูลค่า
แต่ถ้าความเชื่อใจในรัฐบาลหายไป “เงิน” ก็กลายเป็นเพียงเศษกระดาษธรรมดาๆได้ในชั่วข้ามคืน
ทองคำที่ไม่ใช่กระดาษ ไม่ใช่คำพูด ไม่ใช่สัญญา แต่คือ “ทองคำของจริง” ที่จับต้องได้ มีค่ามาหลายพันปีตั้งแต่ยุคอียิปต์ โรมัน จนถึงยุคดิจิทัลวันนี้ มันไม่เน่า ไม่ผุ ไม่เสื่อมค่า และไม่ขึ้นกับรัฐบาลไหนๆ
“เงิน” คือสิ่งที่เราต้องใช้ในชีวิตประจำวัน
แต่ “ทองคำแท้” คือสิ่งที่ย้ำเตือนเราว่า ความมั่งคั่งที่แท้จริง ไม่ใช่ตัวเลขในบัญชีที่ใครกดพิมพ์ขึ้นมาก็ได้ แต่คือสิ่งที่จับต้องได้ และไม่มีวันโกหกเรา…
วิกฤตเงินเฟ้อจากซิมบับเวและเวเนซุเอลา สอนอะไรกับคุณบ้าง?
แชร์มุมมอง พร้อมติดตาม ราคาทองวันนี้ กราฟราคาทองวันนี้ ล่าสุด ได้ที่ THAIGOLDHUB หน้าเว็บไซต์
ข้อสงวนสิทธิ์: บทความหรือข่าวสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยเนื้อหาบางส่วนอาจเรียบเรียงจากความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน หรืออาจจัดทำขึ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อสรุปข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และนำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อการทำความเข้าใจที่ง่ายขึ้น ทั้งนี้ มิได้เป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือการซื้อขายทองคำ สินทรัพย์ หรือหลักทรัพย์ใด ๆ ผู้จัดทำได้พยายามตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่อาจมีความคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลา และขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใด