ทองคำในกระเป๋าย่า และความมั่นคงที่ไม่เคยเก่า

ทองคำในกระเป๋าย่า และความมั่นคงที่ไม่เคยเก่า

22 กรกฎาคม 2568 เวลา 13:00 น.

ตอนเด็กๆ ผมจำได้แม่นว่า ย่าจะมีผ้าห่อเก่าๆ อยู่ผืนหนึ่ง เก็บไว้ในตู้ไม้เก่า ที่มุมบ้าน วันหนึ่งย่าหยิบมันออกมาให้ผมดู ข้างในมีทองคำแท่งเล็กๆ สีเหลืองอร่าม ย่าบอกเพียงสั้นๆ ว่า

“นี่แหละคือสิ่งเดียวที่ไม่มีวันเสื่อมราคา”

ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจหรอกว่าทองคำคืออะไร หรือทำไมมันถึงสำคัญนัก แค่รู้ว่ามันสวยและดูมีค่า แต่เมื่อภาพนั้นติดตาอยู่หลายสิบปี จนวันที่ผมโตมาทำงาน เริ่มเข้าใจโลกการเงิน ก็ถึงได้รู้ว่าสิ่งที่ย่าให้วันนั้น ไม่ใช่แค่ทองคำ แต่คือ “ภูมิคุ้มกันทางการเงิน”


ทองคำ…ไม่เคยเก่า

หลายคนมองว่าทองคำเป็นเพียงเครื่องประดับหรือของเก็บสะสม แต่ความจริงแล้วทองคำคือ สินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven Asset) ที่มีบทบาทสำคัญมากในยามเศรษฐกิจผันผวน เพราะมันไม่ได้พึ่งพาสกุลเงินใดสกุลเงินหนึ่ง และมีคุณค่าในตัวเองมาตลอดหลายพันปี

ถ้าย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ ช่วงศตวรรษที่ 19–20 ระบบการเงินโลกเคยผูกกับทองคำโดยตรง เรียกว่า Gold Standard หมายความว่าทุกธนบัตรสามารถแลกเป็นทองคำได้ ทำให้ทองคำกลายเป็นตัวค้ำความเชื่อมั่นของทั้งประเทศ

แม้โลกเลิกใช้ระบบนั้นไปแล้วในยุค 1970s แต่ทุกครั้งที่เกิดวิกฤต ไม่ว่าจะเป็น

  • วิกฤตต้มยำกุ้งปี 1997

  • วิกฤตซับไพรม์ปี 2008

  • หรือช่วงโควิด-19 ปี 2020

ราคาทองคำก็มักจะพุ่งขึ้น เพราะผู้คนแห่เข้าซื้อเพื่อปกป้องมูลค่าเงินของตัวเอง


ทำไมทองคำจึงเป็นเกราะป้องกันความมั่งคั่ง

  1. ไม่ผูกกับรัฐบาลหรือระบบการเงินใดๆ

    • ต่างจากหุ้น พันธบัตร หรือเงินฝากที่ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพของระบบการเงิน

  2. ทนทานต่อเงินเฟ้อ

  3. เป็นสินทรัพย์ที่จับต้องได้

  4. มีมูลค่าทั่วโลกยอมรับ

    • ไม่ว่าคุณจะอยู่ประเทศไหน ทองคำยังคงเป็นของมีค่า


วิธีเริ่มลงทุนทองคำ

สำหรับมือใหม่ อาจเริ่มจากการเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับงบประมาณและความสะดวกของตัวเอง เช่น

  • ทองคำแท่ง / ทองรูปพรรณ
    เก็บเองได้ เห็นของชัดเจน แต่ต้องระวังเรื่องการเก็บรักษาและค่ากำเหน็จ

  • กองทุนทองคำ (Gold Fund)
    เหมาะกับคนที่ไม่อยากเก็บทองเอง ลงทุนผ่านกองทุนรวมที่ผูกกับราคาทองโลก

  • ทองคำออนไลน์ / Gold ETF
    ซื้อขายได้ง่ายเหมือนหุ้น เหมาะกับคนที่ต้องการสภาพคล่องสูง

เคล็ดลับ: ไม่ว่าคุณเลือกแบบไหน จำไว้ว่า ทองคำเหมาะกับการถือยาว ไม่ใช่เก็งกำไรระยะสั้น


จัดพอร์ตให้สมดุล

การลงทุนที่ดีไม่ใช่การทุ่มเงินทั้งหมดไปในสินทรัพย์เดียว แม้ทองคำจะปลอดภัย แต่ก็ไม่ได้สร้างผลตอบแทนสูงแบบหุ้นหรือคริปโต ฉะนั้นควรแบ่งสัดส่วนพอร์ต เช่น 10–20% ไว้ในทองคำ เพื่อกระจายความเสี่ยง


บทเรียนจากผ้าห่อเก่าของย่า

ทุกวันนี้ผมยังเก็บทองคำที่ย่าให้ไว้ มันไม่เพียงแต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามเวลา แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจว่า โลกจะเปลี่ยนอย่างไร ก็ต้องมีสินทรัพย์ที่ยืนหยัดได้ในวันที่พายุมา

ทองคำอาจไม่ทำให้คุณรวยในชั่วข้ามคืน แต่มันอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณยังยืนได้ในวันที่ทุกอย่างรอบตัวสั่นคลอน
และบทเรียนจากย่าก็คือ — จงมี “ทองคำในกระเป๋า” เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทองคำจริงๆ หรือสินทรัพย์ที่ทำหน้าที่เหมือนมัน


ข้อสงวนสิทธิ์:
บทความหรือข่าวสารนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น โดยเนื้อหาอาจจัดทำขึ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสรุปข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ ที่เปิดเผยต่อสาธารณะ หรือเรียบเรียงจากความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ทั้งนี้ มิได้เป็นคำแนะนำทางการเงิน การลงทุน หรือการซื้อขายทองคำ สินทรัพย์ หรือหลักทรัพย์ใด ๆ ผู้จัดทำได้พยายามตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเต็มที่ แต่อาจมีความคลาดเคลื่อนหรือเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลา และขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการนำข้อมูลนี้ไปใช้ไม่ว่ากรณีใด